Translate

วันอังคารที่ 24 กันยายน พ.ศ. 2556

Châteaux de La Loire ปราสาทแห่งลุ่มแม่น้ำลัวร์

              วังและปราสาทต่างๆในลุ่มแม่น้ำลัวร์  แต่เดิมนั้นเริ่มต้นด้วยการสร้างเป็นป้อมปราการเพื่อการป้องกันข้าศึกศัตรูจนถึงเปลี่ยนแปลงเมื่อพระมหากษัตริย์ฝรั่งเศสทรงเริ่มสร้างพระราชวังขนาดใหญ่ในบริเวณนี้ บรรดาขุนนางผู้ไม่กล้าที่จะอยู่ห่างไกลจึงสร้างตาม แต่วังและคฤหาสน์ก็ได้ถูกทำลายหรือปล้นทำลายไปมากระหว่างการปฏิวัติฝรั่งเศส ไม่เช่นนั้นก็เกิดจากการทำลายโดยเจ้าของที่กลายเป็นขุนนางตกยากในชั่วข้ามคืนเมื่อหัวหน้าครอบครัวถูกปลดและบั่นคอด้วยกิโยติน ระหว่างสงครามโลกครั้งที่หนึ่งและสงครามโลกครั้งที่สอง แต่ปัจจุบันก็มีบางวังหรือปราสาทที่ได้รับการบริหารโดยรัฐบาลกลางและกลายเป็นสถานที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวจนถึงทุกวันนี้ เช่น


พระราชวังช็องบอร์ (Château de Chambord)
พระราชวังช็องบอร์เป็นวังที่เป็นที่รู้จักกันดีที่สุดวังหนึ่งในโลกจากลักษณะสถาปัตยกรรมฟื้นฟูศิลปวิทยาที่เป็นเอกลักษณ์ของสิ่งก่อสร้างที่มีลักษณะผสานระหว่างการก่อสร้างแบบยุคกลางของฝรั่งเศสกับสถาปัตยกรรมคลาสสิกของอิตาลี



วังเชอนงโซ (Château de Chenonceau)
วังเดิมสร้างบนโรงป่นแป้งเก่าบนฝั่งแม่น้ำแชร์ และสร้างมาก่อนหน้าที่จะมีหลักฐานทางเอกสาร
เมื่อคริสต์ศตวรรษที่ 11 วังปัจจุบันออกแบบโดยฟีลีแบร์ เดอลอร์ม 


วังวาล็องแซ (Château de Valençay)
คฤหาสน์วาล็องแซนั้นได้รับการสรรเสริญโดยนักประพันธ์ชาวฝรั่งเศสฌอร์ฌ ซ็องด์ว่าเป็น "สิ่งก่อสร้างที่งดงามที่สุดในโลก" และกล่าวต่อไปว่า "ไม่มีกษัตริย์พระองค์ใดที่เป็นเจ้าของอุทยาอันงดงาม
มากไปกว่าอุทยานของวาล็องแซ" สถาปัตยกรรมคล้ายคลึงกับสิ่งก่อสร้าง แบบเรอเนซองซ์
แบบเดียวกับพระราชวังช็องบอร์



พระราชวังอ็องบวซ (Château d'Amboise)
เริ่มแรกวังนั้นเป็นสถาปัตยกรรมกอธิควิจิตรแบบฝรั่งเศสและในปี ค.ศ. 1495 พระเจ้าชาร์ลที่ 8 พระองค์ก็ทรงจ้างช่างหินชาวอิตาลีมาสองคน คือ โดเมนีโก ดา กอร์โตนา และ ฟรา โจกอนโด
ที่ทำให้สถาปัตยกรรมของพระราชวังอ็องบวซเป็นสถาปัตยกรรมชิ้นแรกๆ
 ของฝรั่งเศสที่ตกแต่งลวดลายแบบยุคเรอเนเซองซ์




วังอาแซ-เลอ-รีโด (Château d'Azay-le-Rideau)
เป็นวังในสมัยแรกแห่งหนึ่งที่สร้างขึ้นในยุคฟื้นฟูศิลปวิทยาของฝรั่งเศสบนเกาะกลางน้ำ
ของแม่น้ำแอ็งดร์ ฐานปราสาทลอยตรงขึ้นจากพื้นน้ำ



วังโชมง (Château de Chaumont)
ปราสาทโชมงก่อสร้างโดย  Eudes II เคานต์แห่งบลัว ในคริสต์ศตวรรษที่ 10 
เพื่อใช้เป็นป้อมสำหรับป้องกันบลัวจากการโจมตี

ฯลฯ

ในปี ค.ศ. 2000 ด้วยที่มีความงามของภูมิทัศน์ทางวัฒนธรรมอันเด่นของแม่น้ำลัวร์ พร้อมทั้งสถาปัตยกรรมที่งดงามจึงทำให้องค์การยูเนสโกขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรม และในปัจจุบันวังหรือคฤหาสน์ที่เป็นสมบัติส่วนบุคคลก็ใช้เป็นที่พำนัก มีบ้างที่เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชมได้ หรือบางแห่งก็เปลี่ยนไปเป็นโรงแรม หรือบางแห่งก็กลายมาเป็นที่ทำการของรัฐบาลท้องถิ่น
เป็นสถานที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวเป็นจำนวนหลายหมื่นคนต่อปี





ขอบคุณ http://th.wikipedia.org